เลี้ยงลูกด้วยกล้วย แต่ไม่ใช่เรื่องกล้วยกล้วย

กล้วยกับเด็กเหมือนเป็นของคู่กัน ซึ่งถ้าย้อนเวลากลับไปเวลบีคิดว่าในวัยอย่างเราคงโตมากับการกินกล้วยบดตอนเด็กๆใช่ไหมคะ แต่เราคงจำไม่ได้หรอกว่าเรากินตอนอายุเท่าไหร่ มาคิดว่าจะเริ่มป้อนให้ลูกเราตอนไหนดีก็นึกไม่ออก แถมช่วงหลังก็มีประเด็นการป้อนกล้วยให้เด็กทารกมาให้กังวลอีก แต่เอ๊ะ เราก็โตมากับมันได้นี่หน่า โอ๊ย สารพัดความสับสน แต่เรื่องแบบนี้จริงๆแล้วคือเรื่องของระบบการทำงานของร่างกายทารก ที่จะมีพัฒนาการในแต่ละช่วง มีการเติบโตซึ่งคุณแม่ก็ต้องทำความเข้าใจว่าช่วงไหนที่มีพัฒนาการอย่างไร เพื่อจะได้ป้อนอาหารได้ถูกหลัก ปลอดภัยและเป็นประโยชน์กับลูกน้อยที่สุด แน่นอนค่ะ วันนี้เวลบีก็มีข้อมูลมาไขความสงสัยว่าจริงๆแล้วกล้วยมีประโยชน์กับทารกยังไง แล้วช่วงไหนที่สามารถป้อนได้ ทำไมต้องกล้วย? อันดับแรกต้องบอกก่อนว่ากล้วยที่เหมาะสำหรับการป้อนเด็กทารก คือ กล้วยน้ำว้า เพราะเป็นผลไม้ที่หาง่าย ปลูกได้ทุกบ้านเรือน คนไทยเลยนิยมกัน และกล้วยน้ำว้ามีเนื้อที่นิ่ม ทานได้ง่าย เด็กทารกที่ยังไม่มีฟันก็สามารถทานได้ ส่วนในเรื่องของประโยชน์ สารอาหาร กล้วยมีส่วนประกอบของโปรตีนที่ใกล้เคียงกับน้ำนมแม่ มีโปแตสเซียมสูงมาก ซึ่งช่วยเพิ่มพลังให้สมองตื่นตัว และกล้วยยังช่วยให้เด็กไม่มีอาการท้องผูก เพราะมีเส้นใยอาหารอยู่มาก ทำให้ขับถ่ายได้สะดวก กล้วยแบบไหนถึงจะดี? เวลบีแนะนำว่าควรเป็นกล้วยน้ำว้าที่สุกงอม ยิ่งสุกคาต้นได้ยิ่งดีเลยค่ะ เพราะกล้วยมีองค์ประกอบหลักคือ แป้ง (คาร์โบไฮเดรต) และน้ำตาล ซึ่งในกล้วยดิบจะพบแป้งเป็นส่วนใหญ่ โดยแป้งของกล้วยมีบางส่วนที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ยิ่งในเด็กที่ย่อยได้ยากกว่าผู้ใหญ่ก็จะทำให้เกิดความผิดปกติในร่างกายได้ จึงแนะนำให้เป็นกล้วยที่สุกงอมที่มีองค์ประกอบของน้ำตาลมากกว่าแป้ง ทำให้การย่อยเป็นเรื่องง่าย ส่วนที่บอกให้สุกคาต้นก็เพราะว่าสมัยนี้ส่วนใหญ่กล้วยที่เก็บมาขายจะยังเป็นกล้วยดิบ ซึ่งในระหว่างการบ่มอาจจะทำให้แป้งเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลได้ไม่เต็มที่เท่ากับแบบที่สุกคาต้นนั่นเองค่ะ เมื่อไหร่ที่สามารถเริ่มป้อนกล้วยได้? นักวิชาการทางการแพทย์หลายๆท่านแนะนำให้ป้อนกล้วยให้กับเด็กทารกตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป…

อาการหลังคลอด 10 อย่างที่คุณแม่ควรรู้

หลังจากคุณแม่ตั้งครรภ์มา 9 เดือนจนมาถึงวันที่ได้คลอดลูกน้อยออกมา เชื่อว่าร่างกายคงเกิดการเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย และแน่นอนว่าหลังจากคลอดแล้ว ร่างกายก็จะต้องเปลี่ยนกลับไปให้เป็นเหมือนเดิมมากที่สุด แต่อาการหลังคลอดที่ตามมาของคุณแม่แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะไม่เจอเลย หรือบางคนอาจจะเจอเยอะมาก ซึ่งระดับความรุนแรงก็ไม่เหมือนกันอีก นอกจากอาการเจ็บแผลทั่วไป วันนี้เวลบีอยากจะเอาข้อมูลสิ่งคุณแม่อาจจะเจอได้หรือที่เรียกว่า ภาวะหลังคลอด มาฝากให้คอยเฝ้าสังเกตุอาการกัน เพราะถ้าหากรู้สึกว่าเป็นอยู่และนานเกินไปจะได้ไปพบแพทย์ได้ทันค่ะ 1. มีน้ำคาวปลาออกมาจากช่องคลอด น้ำคาวปลาคือเลือดที่ออกมาหลังจากการคลอด เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกหลุดออกมาบางส่วน ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งผ่าคลอดและคลอดเอง แนะนำให้คุณแม่เตรียมผ้าอนามัยแบบกลางคืนหรือแบบหนาเอาไว้ติดตัวด้วย เพราะน้ำคาวปลาจะออกมาเหมือนมีประจำเดือน แต่ปริมาณจะมากกว่า ซึ่งผู้หญิงหลังคลอดจะมีน้ำคาวปลาประมาณ 4-6 สัปดาห์แล้วค่อยลดลงเรื่องๆ 2. ปวดท้องน้อย อาการปวดท้องน้อยอาจเกิดขึ้นกับคุณแม่บางคนหลังคลอด 2-3 วัน เหมือนอาการปวดประจำเดือน เกิดขึ้นเพราะมดลูกกำลังปรับคืนสู่สภาพเดิมเหมือนก่อนมีลูก (มดลูกเข้าอู่) คนที่มีลูกคนที่ 2 ขึ้นไปจะยิ่งปวดกว่าเดิม เพราะมดลูกต้องปรับตัวมากขึ้น 3. เหงื่อออกมากกว่าปกติ เนื่องจากหลังคลอดร่างกายของคุณแม่ต้องปรับฮอโมนและระดับเลือดหลังคลอดทำให้เกิดความรู้สึกร้อนได้ง่าย เหงื่อไหลออกมาหลังคลอดมากเป็น 4. ท้องผูก อาการท้องผูกหลังคลอด เกิดขึ้นเพราะริดสีดวง แม้แต่คนที่ผ่าคลอดบุตรก็อาจจะมีอาการท้องผูกได้ เพราะได้แต่นอนเฉยๆ เพราะเจ็บแผล เมื่อคุณหมออนุญาต ให้เริ่มเดินช้าๆ ในบริเวณโรงพยาบาล นอกจากนั้นก็ดื่มน้ำเยอะหน่อย และทานอาหารที่มีกากใยก็ช่วยได้เยอะ 5.…

เครื่องปั๊มนมนั้น สำคัญไฉน!!

ช่วงคุณแม่หลังคลอดจะเป็นช่วงที่สามารถผลิตน้ำนมได้มาก ซึ่งบางครั้งก็อาจจะมากกว่าความต้องการของเจ้าหนู หรือบางรายก็อาจจะไม่เพียงพอ หรือบางทีคุณแม่อาจจะต้องทำธุระหรือทำงานจนไม่ว่างที่จะให้นมกับลูกได้อย่างเพียงพอ เราจึงมีนวัตกรรมที่เรียกว่าเครื่องปั๊มนมขึ้นมา ซึ่งก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องปั๊มนมนั้นคุณแม่คงต้องทำการศึกษาก่อนนะคะ ว่าเครื่องปั๊มนมแบบไหนที่เหมาะกับเรา และประโยชน์ของเครื่องปั๊มนมนั้นมีอะไรบ้าง วันนี้เวลบีจึงรวบรวมข้อมูลมาให้อ่านกันค่ะ ปั๊มนมมีประโยชน์อย่างไร ทำไมต้องปั๊มนม? อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นนะคะว่าบางครั้งคุณแม่ก็อาจจะไม่มีเวลาว่างให้นมเจ้าหนูได้ตลอดเวลา ซึ่งนอกจากเรื่องนี้แล้วการปั๊มนมก็ยังมีประโยชน์ด้านอื่นๆค่ะ ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนมของคุณแม่ ทำให้ปริมาณน้ำนมของคุณแม่มากขึ้น เก็บสำรองน้ำนมในกรณีที่ทารกคลอดก่อนกำหนด หรือไม่สามารถกินน้ำนมแม่จากเต้าได้ เก็บสำรองน้ำนมไว้ใช้ในช่วงที่แม่ต้องหยุดการให้น้ำนมเนื่องจากมีผลข้างเคียงจากการใช้ยา ช่วยบรรเทาอาการคัดเต้านม เพิ่มโอกาสให้คุณพ่อได้ป้อนนม เพิ่มความคุ้นชินระหว่างพ่อลูกด้วยค่ะ เลือกเครื่องปั๊มนมอย่างไรจะเหมาะสม เครื่องปั๊มนมนั้นมีอยู่ 2 ประเภทซึ่งก็คือเครื่องปั๊มนมแบบธรรมดาและแบบไฟฟ้า ซึ่งการเลือกใช้ขึ้นอยู่กับงบประมาณ ความเหมาะสมของคุณแม่แต่ละท่าน รวมถึงความถี่จากการใช้งานเครื่องปั๊มนมค่ะ 1. เครื่องปั๊มนมแบบธรรมดา : เป็นเครื่องปั๊มนมแบบใช้มือ ซึ่งมีราคาถูกกว่าเครื่องปั๊มนมไฟฟ้า เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องปั๊มนมเป็นครั้งคราว เฉพาะเวลาที่ไม่สะดวกให้นม หรือเมื่อมีอาการคัดเต้า ต้องการระบายน้ำนม แต่ทั้งนี้คุณแม่ก็ต้องมีเวลาด้วยนะคะ เพราะใช้เวลาค่อนข้างนานค่า 2. เครื่องปั๊มนมแบบไฟฟ้า : เป็นเครื่องปั๊มนมที่จะมีราคาแพงกว่าแบบธรรมดา แต่จะช่วยทุ่นเวลาให้คุณแม่ได้นะคะ ซึ่งเครื่องปั๊มนมแบบนี้น่าจะเหมาะกับคุณแม่ที่ต้องทำงานประจำ ไม่ค่อยมีเวลาให้นมลูก และต้องการประหยัดเวลาในการปั๊มนมค่ะ แต่ทั้งนี้เครื่องปั๊มแบบไฟฟ้าก็มีขนาดที่ใหญ่กว่าและอาจมีเสียงดังเวลาปั๊ม คุณแม่อาจใช้สลับกับแบบธรรมดาก็ได้นะคะ ทั้งนี้การปั๊มนมอาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเก็บรักษาน้ำนมเพื่อสำรองใช้ในเวลาฉุกเฉิน หรือเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำนมได้ แต่ทั้งนี้การที่จะทำให้น้ำนมมีคุณภาพนั้น คุณแม่ต้องมีการทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อรักษาคุณภาพของน้ำนมนะคะ ซึ่งคุณแม่อาจเลือกทาน Product…

เพลงกล่อมเด็กสำหรับลูกน้อย…

คุณแม่หลายท่านอาจประสบปัญหาเจ้าหนูน้อยงอแง ไม่ยอมหลับสักที วันนี้เวลบีรวบรวมเพลงกล่อมเด็กที่จะช่วยให้เจ้าหนูหลับง่ายและหลับสบายไปกับเสียงเพลงเพราะๆ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูกน้อยด้วยค่ะ โดยวันนี้เวลบีได้นำเพลงกล่อมเด็กเวอร์ชั่นเพราะๆ ที่พร้อมจะให้คุณแม่เปิดกล่อมเจ้าหนูเลยค่ะ จันทร์เจ้า ” จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า             ขอข้าวขอแกง ขอแหวนทองแดง                 ผูกมือน้องข้า ขอช้างขอม้าให้น้องข้าขี่        ขอเก้าอี้ให้น้องข้านั่ง ขอเตียงตั่งให้น้องข้านอน      ขอละครให้น้องข้าดู ขอยายชูเลี้ยงน้องข้าเถิด       ขอยายเกิดเลี้ยงตัวข้าเอง ” ฟังเพลง จันทร์เจ้า โยกเยก “โยกเยกเอย น้ำท่วมเมฆ กระต่ายลอยคอ หมาหางงอ ขี่คอโยกเยก” ฟังเพลง โยกเยก นกขมิ้น “เจ้านกขมิ้นเหลืองอ่อนเอย ค่ำแล้วจะนอนที่ตรงไหน นอนที่ไหนก็นอนได้ สุมทุมพุ่มไม้ก็เคยนอน ลมพระพายชายพัดมาอ่อน ๆ เจ้าก็จรมานอนรังเอย” ฟังเพลง นกขมิ้น…

เทคนิคพิชิตหุ่นเฟิร์มหลังคลอด

เรื่องรูปร่างหลังคลอดคงเป็นปัญหาสำคัญสำหรับคุณแม่หลายๆ คนใช่มั้ยคะ เพราะช่วงตั้งท้องเนี่ยน้ำหนักคุณแม่ก็คงขึ้นไปหลายกิโล แต่พอคลอดปุ๊ปก็ใช่ว่ามันจะลงมาง่ายๆน่ะสิ  วันนี้เวลบีเลยรวบรวมเทคนิคพิชิตหุ่นเฟิร์มสำหรับคุณแม่หลังคลอดมาฝากนะคะ ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างหุ่นถึงจะกลับมาเซี๊ยะและสวยเหมือนเดิม ไปอ่านกันเลยค่า… เริ่มจากการตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ โดยปกติคุณแม่จะน้ำหนักลงหลังคลอดประมาณ 4-5 กิโลกรัม ซึ่งหากต้องการลดมากกว่านั้นควรที่จะค่อยเป็นค่อยไป โดยอาจตั้งเป้าหมายไว้ที่ประมาณ 0.5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ ซึ่งไม่ควรหักโหมไปมากกว่านี้เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วไปจะก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้ค่ะ ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้ได้อย่างน้อยวันละแปดแก้ว จะช่วยป้องกันอาการขาดน้ำ และยังเป็นการช่วยเพิ่มกระบวนการเผาผลาญให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเรื่องผิวพรรณด้วยค่ะ ออกกำลังกายสม่ำเสมอแต่ไม่หักโหม การออกกำลังกายในช่วงหลังคลอดอาจต้องทำอย่างระมัดระวังโดยไม่หักโหมมากเกินไป คุณแม่จะเริ่มออกกำลังกายได้ในช่วง 4-6 สัปดาห์หลังคลอด คุณแม่ควรทำการออกกำลังกายโดยวิธี Cardio ควบคู่กับการสร้างกล้ามเนื้อ เพราะจะเป็นการกระตุ้นการเผาผลาญได้ดีขึ้น อาจเริ่มโดยการเริ่มเดินบนลู่วิ่ง หรือเดินรอบๆ บ้าน และพยายามลดหน้าท้องด้วยการ Planking ประมาณ 30 วินาที –  1 นาทีต่อครั้ง จะช่วยลดหน้าท้องได้เป็นอย่างดีค่ะ พักผ่อนให้เพียงพอ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการควบคุมน้ำหนักให้มีประสิทธิภาพเพิ่มการเผาผลาญได้ดีกว่าการพักผ่อนน้อย โดยคุณแม่ควรนอนให้ได้วันละ 7 ชั่วโมง ซึ่งแม้ว่าลูกน้อยจะมีการรบกวนบ้างก็ตาม หากคุณแม่มีโอกาสได้งีบหรือพักผ่อนก็ควรจะพักผ่อนให้เพียงพอนะคะ ควบคุมอาหารแต่ไม่อดอาหาร คุณแม่ควรควบคุมการทานอาหาร ลดอาหารจำพวกแป้งที่มากเกินไป และลดไขมันด้วย เน้นการทานอาหารที่มีประโยชน์แทนการอดอาหาร เพราะถือเป็นการลดน้ำหนักที่ผิดและจะส่งผลเสียได้…

อยู่ไฟดียังไง ทำไมใคร ๆ ก็แนะนำ

คุณแม่ยุคใหม่ เคยได้ยินคำว่า “อยู่ไฟหลังคลอด” กันบ้างมั้ยคะ การอยู่ไฟหลังคลอดเป็นภูมิปัญญาชาบ้านของคนไทยที่ทำสืบต่อกันมาอย่างยาวนานมาก ๆ พูดให้เห็นภาพชัด ๆ คือ การเข้ากระโจมและอบสมุนไพรนั่นเองค่ะ ซึ่งการอยู่ไฟนั้นมีคุณประโยชน์ที่มากมายนานัปการที่จะช่วยฟื้นฟูร่างกายของคุณแม่หลังคลอด และปรับสมดุลในร่างกายให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด ครั้งนี้ เวลบีจะพาทุกคนไปเจาะลึกเกี่ยวกับเรื่องของการอยู่ไฟกันค่ะ ไปดูกันเลย ข้อดีของการอยู่ไฟ การอยู่ไฟเป็นกระบวนการที่ช่วยดูแลคุณแม่หลังคลอดที่คนไทยสมับโบราณคิดค้นขึ้น โดยเชื่อกันว่าจะช่วยทำให้ร่างกายของคุณแม่ที่ผ่านการอุ้มท้องมา 9 เดือน จะฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้าให้กลับคืนสู่สภาพปกติได้โดยเร็ว โดยใช้ความร้อนเข้าช่วย ทำให้กล้ามเนื้อเส้นเอ็นบริเวณหลังและขาที่เกิดจากการกดทับในขณะตั้งครรภ์ได้คลายตัว ช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามตัว ทำให้เลือดลมไหลเวียนได้ดี ช่วยปรับสมดุลร่างกายของคุณแม่ให้เข้าที่ อาการหนาวสะท้านที่เกิดจากการเสียเลือดและน้ำหลังคลอดมีอาการดีขึ้น ทำให้มดลูกที่ขยายตัวได้หดรัดตัวหรือเข้าอู่ได้เร็ว พร้อมกับช่วยให้ปากมดลูกปิดได้ดี จึงป้องกันการติดเชื้อในโพรงมดลูกหลังคลอด ทำให้น้ำคาวปลาแห้งเร็ว ลดการไหลย้อนกลับจนนำไปสู่ภาวะเป็นพิษ การอยู่ไฟ ทำอย่างไร ยุ่งยากรึป่าวนะ ? การอยู่ไฟหลัก ๆ จะประกอบไปด้วยการนวดประคบ โดยใช้ลูกประคบร้อนที่ห่อไปด้วยสมุนไพรต่าง ๆ มากกว่า 10 ชนิด เช่น ขมิ้น ตะไคร้ การบูร ใบส้มป่อย เถาเอ็นอ่อน ฯลฯ มานวดคลึงตามบริเวณร่างกายและเต้านม เพื่อช่วยลดอาการปวดเมื่อยและรักษาแผลหลังคลอด หลังจากผ่านการนวดประคบ คือ…

ตารางวัคซีนตั้งแต่เกิดจนโตของเจ้าหนู

คุณพ่อคุณแม่เป็นเหมือนกันมั้ยคะ ที่งงกับเรื่องวัคซีนของลูกน้อย เอ๊ะ ตัวไหนฉีดก่อน ตัวไหนฉีดหลัง วัยนี้ถึงเวลาต้องฉีดตัวนี้แล้วรึยังนะ หรือ ตัวนี้ต้องฉีดห่างจากเข็มแรกนานแค่ไหน ร้อยแปดพันประการเกี่ยวกับเรื่องวัคซีนของเจ้าหนู วันนี้เวลบีเลยมาช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ หายงงจ้า ไปดูกันเลยยย เป็นไงคะ ตารางง่ายๆ แต่เก็บครบทุกรายละเอียดเลยย ดูแลน้อง ๆ พาน้อง ๆ ไปฉีดวัคซีน แล้ว คุณพ่อคุณพ่อก็อย่าลืมดูแลตัวเองนะค้า หมั่นหาอาหารที่บำรุงสุขภาพ และทานผลไม้เยอะ ๆ นะค้าา ถ้าไม่ชอบผลไม้สด ก็ผลไม้อบกรอบของเวลบีก็ได้ อิอิ ทานแล้วรับรองได้คุณค่าทางอาหารเหมือนทานผลไม้สดเลย ถ้าหากกระทู้นี้เป็นประโยชน์ ฝากกดไลค์ กดแชร์ให้เวลบีด้วยน้า ^^

เตรียมพบกับ Wel-B ได้ที่งาน “Gift Fest by Thailand Bestbuys 2018”

พบกับ Wel-B ได้ที่งาน “Gift Fest by Thailand Bestbuys 2018” วันที่ 12-16 ธันวาคม 2561 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บูท P259   ติดตามโปรโมชั่นดีๆ ได้ที่หน้าเพจ Wel-B นะคะ ^^

เตรียมพบกับ Wel-B ได้ที่งาน “Baby Best Buy” ครั้งที่ 32

พบกับบูธ Wel-B ได้ที่งาน “Baby Best Buy” ครั้งที่ 32 วันที่ 8-11 พฤศจิกายน 2561 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  บูท PF11   ติดตามโปรโมชั่นดีๆ ได้ที่หน้าเพจ Wel-B นะคะ ^^

สารพัดอุปกรณ์ประจำบ้านสำหรับคุณแม่

อีกเรื่องที่ต้องกังวลสำหรับคุณแม่มือใหม่คงหนีไม่พ้นการเตรียมข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ สำหรับการเลี้ยงลูกน้อย ซึ่งเรียกได้ว่าค่อนข้างที่จะเยอะมากสำหรับการเลี้ยงลูกหนึ่งคน วันนี้เวลบีได้รวบรวมอุปกรณ์ต่างๆ ที่คุณแม่ต้องเตรียมให้พร้อม โดยจะแยกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ ไว้นะคะ จะเป็นอย่างไรบ้างลองไปดูกันค่ะ 1. หมวดเครื่องนอน การเตรียมอุปกรณ์เครื่องนอนสำหรับลูกน้อยนั้นถือเป็นส่วนสำคัญมากๆ เนื่องจากลูกน้อยจะใช้เวลาส่วนใหญ่กับการนอน ซึ่งคุณแม่จะต้องเตรียมตัวให้ดีเพื่อให้ลูกน้อยได้มีความสุขกับการนอนอย่างเต็มที่ รู้สึกสะดวกสบายและปลอดภัย ซึ่งตัวอย่างอุปกรณ์ในหมวดเครื่องนอน ดังนี้ เตียงนอน เบาะนอน แผ่นยางรองฉี่ ผ้าปูที่นอน หมอนข้างหรือหมอนปรับท่านอน ผ้าห่มหรือผ้าคลุม เปลไกว เก้าอี้นอนแบบโยก มุ้งครอบ 2. หมวดอุปกรณ์อาบน้ำ การอาบน้ำของลูกน้อยค่อนข้างต้องใช้ความระมัดระวังต่างจากผู้ใหญ่หรือเด็กทั่วไป ฉะนั้นแล้วจึงควรมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัย และใช้ผลิตภัณฑ์ในการอาบน้ำที่อ่อนโยนต่อผิวลูกน้อยด้วย แผ่นยางรองอาบน้ำ อ่างอาบน้ำสำหรับเด็ก แชมพูและสบู่ที่อ่อนโยนสำหรับเด็ก ฟองน้ำธรรมชาติ เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิ ผ้าขนหนู สำลีแบบก้าน แบบก้อน และแบบแผ่น กระดาษทิชชู่แบบเปียกและแบบแห้ง กระติกน้ำร้อน ราวตากผ้าอ้อม 3. หมวดเสื้อผ้า ถือเป็นอีกหนึ่งอย่างที่คุณแม่ต้องใส่ใจและต้องพร้อมเลือกซื้อสำหรับลูกน้อยอยู่ตลอดเวลาเพราะลูกน้อยจะมีการเติบโตและเปลี่ยนแปลงรูปร่างอยู่เรื่อยๆ ซึ่งคุณแม่ต้องคอยสังเกตและเลือกซื้อเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับขนาดตัวของลูกเพื่อความสะดวกสบายด้วยนะคะ ผ้าสำหรับห่มตัว เสื้อผ้า 8-10 ชุด หมวก 2-3 ใบ ถุงมือ 2-4…