ปัญหาที่คุณแม่ทั้งหลายพบเจอในช่วงตั้งครรภ์ และสร้างความหนักใจมาจนถึงช่วงหลังคลอด นั่นก็คือปัญหาท้องแตกลายจากการตั้งครรภ์ ที่คุณแม่แทบทุกคนต้องเตรียมมือตั้งรับ จะมามากน้อย มาช้ามาเร็ว บางครั้งคงต้องพูดว่าแล้วแต่บุญแล้วแต่กรรมที่ทำมากันเลยทีเดียว ด้วยความสงสัย เวลบีเลยไปลองหาความรู้มา เลยอยากจะเอามาเล่าให้คุณแม่ทุกท่านได้รู้ไปด้วยกัน ว่ามันมีวิธีป้องกัน หรือบรรเทายังไงได้บ้าง เพราะไม่ว่ายังไง ผู้หญิงอย่างเราก็อยากจะสวยไปตลอดใช่ไหมละค่ะ
เริ่มแรก เรามาทำความรู้จักเจ้าท้องลายกันก่อนว่ามันมาได้ยังไง ?
ท้องลาย เกิดจากการขยายตัวของผิวหนังและเนื้อเยื่อในเวลาอัดรวดเร็ว ซึ่งในขณะที่คุณแม่ตั้งครรภ์ จะเกิดการฉีกขาดในโครงสร้างของ Collagen , Elastin ใต้ผิว กลายเป็นแผลเป็นในชั้นหนัง จนเกิดเป็นรอยแตกได้ง่าย
ลักษณะของรอยแตกลาย
เริ่มแรกจะมีสีออกม่วงหรือแดง เรียกว่า รอยแตกลายใหม่ ซึ่งรอยแบบนี้ยังคงรักษาหายได้ง่ายที่สุด แต่หากปล่อยไว้จนกลายเป็นสีขาวซีด เห็นเป็นร่องรอยแตก เรียกว่า รอยแตกลายเก่า ก็จะรักษาได้ยาก โดยบริเวณที่คุณแม่ตั้งครรภ์มักเกิดรอยแตกไม่ได้มีแค่เพียงที่ท้องเท่านั้น แต่รวมไปถึงทรวงอก สะโพก ต้นขา และบั้นท้าย ซึ่งรอยแตกส่วนใหญ่มีขนาดกว้างประมาณ 1 – 10 เซนติเมตร และยาวได้หลายเซนติเมตร กว่า 90 % ในหญิงตั้งครรภ์จะมีภาวะหน้าท้องลาย ในช่วงไตรมาสสุดท้าย
![ปัญหาผิวแตกลายจากการตั้งครรภ์-01-800x800 ปัญหาผิวแตกลายจากการตั้งครรภ์-01-800x800](https://www.welbsnack.com/wp-content/uploads/2019/02/ปัญหาผิวแตกลายจากการตั้งครรภ์-01-800x800.jpg)
แล้วทีนี้เราจะป้องกันยังไง ก็มีคนบอกไว้หลายวิธี เริ่มจากการเตรียมป้องกันตั้งแต่ยังไม่เกิดท้องลาย ที่เค้าว่าเตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเตรียมความพร้อม เพิ่มความแข็งแรงและยืดหยุ่นของผิวหนัง
2. รับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการดูแลผิว เช่น มะเขือเทศ ส้ม แครอท โยเกิร์ต ถั่ว หรือแม้แต่การดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เพียงพอ
3. พยายามอย่าให้น้ำหนักตัวเพิ่มเร็วจนเกินไป ควรเพิ่มประมาณเดือนละ 2 กิโลกรัมเพื่อเป็นการปรับสภาพหน้าท้องให้ค่อย ๆ ยืดขยายออก
4. หากท้องโตมากควรนอนตะแคง โดยใช้หมอนรองรับหน้าท้องไว้ วิธีนี้จะช่วยลดปัญหาท้องลายให้ลดลง
5. ห้ามเกาเด็ดขาด เพราะการเกาจะไปกระตุ้นให้คอลลาเจนใต้ผิวหนังเกิดรอยแตกมากขึ้น ถึงจะฝืนก็ต้องทนไหวนะ!!
6. ไม่ควรอาบน้ำอุ่นที่อุ่นจัดจนเกินไป จะทำให้ผิวหนังแห้ง และขาดความชุ่มชื้นโดยเฉพาะคุณแม่ที่มีผิวแห้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจะยิ่งทำให้ผิวหนังแห้งมากขึ้น
7. ทาครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ เพราะการทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำจะช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นและยืดหยุ่น เป็นการเตรียมความพร้อมผิวหนังของคุณแม่ให้
สามารถรับมือกับการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของลูกน้อยในครรภ์ได้ดีขึ้น ที่สำคัญครีมบำรุงผิวไม่ควรมีส่วนผสมของไวเทนนิ่งเพราะอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้นะคะ
8. ในคนที่ผิวแห้งมากอาจใช้เบบี้ออยล์ น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอกทาผิวได้
![ปัญหาผิวแตกลายจากการตั้งครรภ์-05-800x800 ปัญหาผิวแตกลายจากการตั้งครรภ์-05-800x800](https://www.welbsnack.com/wp-content/uploads/2019/02/ปัญหาผิวแตกลายจากการตั้งครรภ์-05-800x800.jpg)
ที่บอกมาทั้งหมดนั้นเป็นแนวทางเตรียมตัวหรือป้องกัน ก่อนเกิดท้องลาย แต่ถ้าเกิดเป็นขึ้นมาแล้วจะแก้ยังไงดี รอให้จางเองก็คงไม่ไหว แถมจะจางรึป่าวก็ไม่รู้ ก็เลยมีคนมาแนะนำไว้อย่างนี้ค่ะ
- ให้ใช้วุ้นสีขาวจากว่านห่างจระเข้ที่ล้างยางออกแล้วมาทาบริเวณรอยแตกลายเป็นประจำทุกเช้า เย็น ผิวที่แตกลายก็จะค่อยๆ จางลงได้ เพิ่มความมั่นใจให้ อวดผิวสวยได้อย่างมั่นใจ
- ถ้ายังไม่ปกปิดรอยซะเลยโดยการเลือกใช้ครีมรองพื้นหรือเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ และไม่มีสารเคมีอันตราย หาซื้อได้ตามร้านขายยาและร้านค้าชั้นนำทั่วไป ใช้ทาปกปิดผิวได้ในบริเวณที่มีรอยแตกลายขนาดเล็ก
- ใช้ครีม เจล หรือครีมบำรุงผิวสำหรับคนที่พึ่งเริ่มจะแตกลายคือรอยแตกลายยังเป็นสีแดงหรือม่วง ส่วนใหญ่เป็นครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ (Retinoid) ซึ่งเป็นสารอนุพันธุ์ของวิตามินเอ อย่างเทรทิโนอิน (Tretinoin) กรดวิตามินเอในตัวยาจะช่วยสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังขึ้นมาใหม่ ทำให้รอยแตกลายปรับสภาพคล้ายกับผิวหนังปกติ ผลข้างเคียงจากครีมตัวนี้ คือ อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ควรระมัดระวังในการใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ตั้งครรภ์หรือแรกคลอด ควรปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อนการใช้ และส่วนใหญ่การใช้ครีมเหล่านี้ก็ไม่ได้มีประสิทธิผลที่ชัดเจนมากไปกว่าการที่ท้องลายจะจางลงไปตามกาลเวลา
- การใช้เลเซอร์เป็นการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายสูง เพราะแพทย์ต้องใช้เครื่องยิงลำแสงเลเซอร์ไปที่ผิวหนังบริเวณที่เป็นรอยแตกลาย เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนหรืออีลาสติน โปรตีนที่ชั้นผิวหนัง ซึ่งจะช่วยลดรอยแตกลาย ปรับให้ผิวท้องลายเจือจางลงและกลมกลืนกับผิวหนังปกติ แม้ไม่ได้ทำให้ท้องลายหายไปโดยสิ้นเชิง แต่จะทำให้รอยจางจนสังเกตเห็นได้น้อยลง จำนวนครั้งและการเห็นผลจากการทำเลเซอร์ขึ้นกับแต่ละบุคคล โดยแพทย์จะแนะนำประเภทของเลเซอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวหนังและรอยแตกลายแต่ละชนิด
- การกรอผิว (Microdermabrasion)แพทย์จะใช้เครื่องมือพ่นผลึกแร่ที่ละเอียดมาก เพื่อลอกผิวหนังกำพร้าชั้นตื้นๆ กระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวหนังใหม่ และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหนังเดิม วิธีการนี้อาจมีค่าใช้จ่ายสูงและต้องทำซ้ำอีกหลายรอบเพื่อประสิทธิผลสูงสุด หลังการรักษาอาจทำให้ผิวแพ้แสงง่าย ต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหนังบริเวณที่กรอผิวสัมผัสแสงแดดโดยตรง หรือควรทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว โดยวิธีการนี้ไม่แนะนำให้ใช้กับผู้ที่มีผิวสีเข้ม เนื่องจากอาจเกิดรอยและความไม่สมดุลของสีผิวตามมา
- การทำศัลยกรรมตกแต่งแพทย์จะทำการผ่าตัดเอาไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องพร้อมกับผิวหนังที่มีรอยแตกลายออกไป เป็นการศัลยกรรมเพื่อความงาม มีค่าใช้จ่ายสูง และจะเกิดเป็นรอยแผลเป็นหลังการผ่าตัด แพทย์จะไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้หากไม่มีความจำเป็น
ทั้งนี้แต่ละ เวลบีของบอกไว้ก่อนว่าแต่ละวิธีก็จะได้ผลแตกต่างกันไปกับแต่ละบุคคล รวมถึงระยะเวลาที่ต้องอดทนรอด้วย แต่ไม่ว่ายังไงเราก็เตรียมพร้อมให้ดีที่สุด หากแก้ไม่ได้จริงๆก็แค่ทำใจยอมรับด้วยความเข้าใจ อย่าไปซีเรียสกับมัน เอาเวลามาใส่ใจกับลูกน้อยน่ารักของเรากันดีกว่าจริงไหมคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก