กล้วยกับเด็กเหมือนเป็นของคู่กัน ซึ่งถ้าย้อนเวลากลับไปเวลบีคิดว่าในวัยอย่างเราคงโตมากับการกินกล้วยบดตอนเด็กๆใช่ไหมคะ แต่เราคงจำไม่ได้หรอกว่าเรากินตอนอายุเท่าไหร่ มาคิดว่าจะเริ่มป้อนให้ลูกเราตอนไหนดีก็นึกไม่ออก แถมช่วงหลังก็มีประเด็นการป้อนกล้วยให้เด็กทารกมาให้กังวลอีก แต่เอ๊ะ เราก็โตมากับมันได้นี่หน่า โอ๊ย สารพัดความสับสน แต่เรื่องแบบนี้จริงๆแล้วคือเรื่องของระบบการทำงานของร่างกายทารก ที่จะมีพัฒนาการในแต่ละช่วง มีการเติบโตซึ่งคุณแม่ก็ต้องทำความเข้าใจว่าช่วงไหนที่มีพัฒนาการอย่างไร เพื่อจะได้ป้อนอาหารได้ถูกหลัก ปลอดภัยและเป็นประโยชน์กับลูกน้อยที่สุด แน่นอนค่ะ วันนี้เวลบีก็มีข้อมูลมาไขความสงสัยว่าจริงๆแล้วกล้วยมีประโยชน์กับทารกยังไง แล้วช่วงไหนที่สามารถป้อนได้
ทำไมต้องกล้วย?
อันดับแรกต้องบอกก่อนว่ากล้วยที่เหมาะสำหรับการป้อนเด็กทารก คือ กล้วยน้ำว้า เพราะเป็นผลไม้ที่หาง่าย ปลูกได้ทุกบ้านเรือน คนไทยเลยนิยมกัน และกล้วยน้ำว้ามีเนื้อที่นิ่ม ทานได้ง่าย เด็กทารกที่ยังไม่มีฟันก็สามารถทานได้ ส่วนในเรื่องของประโยชน์ สารอาหาร กล้วยมีส่วนประกอบของโปรตีนที่ใกล้เคียงกับน้ำนมแม่ มีโปแตสเซียมสูงมาก ซึ่งช่วยเพิ่มพลังให้สมองตื่นตัว และกล้วยยังช่วยให้เด็กไม่มีอาการท้องผูก เพราะมีเส้นใยอาหารอยู่มาก ทำให้ขับถ่ายได้สะดวก
กล้วยแบบไหนถึงจะดี?
เวลบีแนะนำว่าควรเป็นกล้วยน้ำว้าที่สุกงอม ยิ่งสุกคาต้นได้ยิ่งดีเลยค่ะ เพราะกล้วยมีองค์ประกอบหลักคือ แป้ง (คาร์โบไฮเดรต) และน้ำตาล ซึ่งในกล้วยดิบจะพบแป้งเป็นส่วนใหญ่ โดยแป้งของกล้วยมีบางส่วนที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ยิ่งในเด็กที่ย่อยได้ยากกว่าผู้ใหญ่ก็จะทำให้เกิดความผิดปกติในร่างกายได้ จึงแนะนำให้เป็นกล้วยที่สุกงอมที่มีองค์ประกอบของน้ำตาลมากกว่าแป้ง ทำให้การย่อยเป็นเรื่องง่าย ส่วนที่บอกให้สุกคาต้นก็เพราะว่าสมัยนี้ส่วนใหญ่กล้วยที่เก็บมาขายจะยังเป็นกล้วยดิบ ซึ่งในระหว่างการบ่มอาจจะทำให้แป้งเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลได้ไม่เต็มที่เท่ากับแบบที่สุกคาต้นนั่นเองค่ะ
เมื่อไหร่ที่สามารถเริ่มป้อนกล้วยได้?
นักวิชาการทางการแพทย์หลายๆท่านแนะนำให้ป้อนกล้วยให้กับเด็กทารกตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป เพราะทางเดินอาหารของเด็กทารก มีความสามารถในการย่อยแป้งไม่มากนัก และจะย่อยได้ดีขึ้นได้เรื่อยๆเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งในเด็กทารกแต่ละคนไม่เหมือนกัน ส่วนใหญ่อาจจะเริ่มย่อยได้ดีตั้งแต่อายุ 3 เดือน แต่หากเด็กคนนั้นโชคไม่ดี ลำไส้ย่อยไม่ได้ ก็อาจจะเกิดการอุดตันได้ จึงแนะนำให้ป้อนตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไปเพื่อความชัวร์ค่ะ
ข้อควรระวัง คือ ถ้าเด็กเป็นไข้ อาจต้องให้งดรับประทานกล้วยเสียก่อน เพราะโปแตสเซียมในกล้วยมีปริมาณค่อนข้างสูง จะทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น อาจจะชักได้ค่ะ